The Historical Development of Cupping Tools: วิวัฒนาการสุดเจ๋งของเครื่องมือครอบแก้ว
- angkart0
- 16 ส.ค.
- ยาว 1 นาที

The Historical Development of Cupping Tools: วิวัฒนาการสุดเจ๋งของเครื่องมือครอบแก้ว
ครอบแก้ว เป็นการบำบัดรักษาวิธีหนึ่งของแพทย์แผนจีนตั้งแต่โบราณนานนับพันปี แต่ที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักและเริ่มสนใจครอบแก้วกันมากขึ้นก็คือ ภาพของนักกีฬาที่มีรอยกลมๆ แดงๆ อยู่บนแผ่นหลัง เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดแก่นักกีฬา ในงานโอลิมปิก เมื่อปี 2016 ที่ประเทศบราซิล แต่ก่อนที่จะมาเป็นแก้วใสหรือแก้วพลาสติกสุญญากาศที่เราเห็นกันทุกวันนี้ จุดเริ่มต้นของอุปกรณ์นี้มีที่มาอย่างไรกันนะ
• การครอบกระปุกด้วยเขาสัตว์ยุคแรกเริ่ม
ปรากฏอยู่ในบันทึกเก่าแก่ที่สุดเท่าที่จะย้อนกลับไปได้คือตำรา ‘อู่สือเอ้อปิ้งฟาง’《五十二病方》โดยการใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘เจี่ยว’ หรือเขาสัตว์ เช่นเขาควาย เขาแพะมาเป็นเครื่องมือ คนสมัยโบราณจะเจาะรูเล็กๆ บริเวณส่วนปลายเขา ใช้ปากดูดอากาศจากรูเล็กๆ นั่นเพื่อให้เกิดแรงดันลบ แล้วใช้ขี้ผึ้งหรือดินเหนียวอุดรูไว้
• สมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 B.C.) และราชวงศ์ฮั่น (202 B.C.- ค.ศ.220)
เริ่มมีการใช้เครื่องปั้นดินเผามาทำเป็นอุปกรณ์การครอบ ยุคนั้นใช้ทั้งเขาสัตว์และเครื่องปั้นดินเผาร่วมกัน
• สมัยราชวงศ์สุย (ค.ศ.581-618) ราชวงค์ถัง (ค.ศ.618-907) และยุคห้าราชวงศ์ (ค.ศ.907-960)
ยุคนี้เริ่มมี ‘การครอบด้วยกระบอกไม้ไผ่’ เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย ประหยัด ทำให้เป็นที่นิยมของผู้คน หมอเจินฉวน ในสมัยราชวงศ์ถัง บันทึกไว้ในตำรา ‘กู่จินลู่เยี่ยนฟาง’ เกี่ยวกับวิธีการใช้ที่ครอบแบบกระบอกไม้ไผ่ แต่ตัวกระบอกไม้ไผ่นั้นมีปัญหาหลายประการ เช่น ไม้ไผ่จะแปรสภาพตามอากาศชื้นและอากาศแห้ง จึงเกิดเป็นรอยแตกหรือรูรั่วได้ง่าย อีกทั้งตัวกระบอกยังทึบแสง ทำให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังของผู้ป่วยได้ไม่ชัดเจน
• ราชวงศ์หยวน (ค.ศ.1271-1368)
การครอบแก้วด้วยกระบอกไม้ไผ่มีวิธีการใช้หลายรูปแบบ เช่นในสมัยราชวงศ์หยวน มีการใช้ ‘เย่ากว้าน’ (药罐疗法 การรักษาด้วยการครอบยาสมุนไพร)
• สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644)
มีบันทึกเกี่ยวกับการใช้ไฟไล่อากาศภายในกระบอก
• ราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1636-1912)
นับตั้งแต่ราชวงศ์ชิงเป็นต้นมา มีการใช้ไฟไล่อากาศกันแพร่หลาย หมอในสมัยราชวงศ์ชิงจึงบัญญัติคำว่า “หั่วกว้าน” (火罐/การครอบแก้วโดยใช้ไฟ) ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ และใช้มาจนถึงทุกวันนี้ ในช่วงเวลานั้นวัสดุที่นำมาใช้ครอบก็เริ่มพัฒนามาเป็นเซรามิก แต่ข้อเสียของเซรามิกนั้นมีมาก ทั้งแตกง่าย พกพายาก น้ำหนักมาก และสังเกตผลระหว่างรักษาได้ไม่สะดวก
• ปลายศตวรรษที่ 19
โรงงานทำแก้วเจริญรุ่งเรือง จึงมีการพัฒนาวัสดุที่ทำจากแก้วให้ดียิ่งขึ้น การครอบแก้วจึงนิยมใช้ถ้วยแก้วเป็นอุปกรณ์มาจนปัจจุบัน ถ้วยแก้วที่ใช้ครอบแก้วนั้นทำจากแก้วทนความร้อน ภายในกว้าง ปากเล็ก รอบปากแก้วมีขอบมนออกด้านนอกเล็กน้อย แบ่งออกเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ 3 ขนาด ส่วนมากใช้วิธีการใช้ไฟไล่อากาศ เหมาะแก่การกะพริบแก้ว เลื่อนแก้ว ครอบแก้วเจาะปล่อยเลือด และครอบแบบทิ้งแก้วไว้ ข้อดีคือลักษณะแก้วสวยงาม โปร่งใส เมื่อครอบแก้วแล้วจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังภายในแก้วได้ จึงรู้เวลาที่เหมาะสม แต่ข้อเสียก็คือนำความร้อนไว เกิดการลวกได้ง่าย อีกทั้งยังแตกง่าย
• ครอบแก้วแบบสุญญากาศ
ทำจากพลาสติกใส มีจุกลูกสูบเพื่อดูดอากาศ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ไม่แตกหักง่าย ไม่ร้อนลวกผิว แต่ข้อเสียคือไม่นำความร้อน จึงทำหัตถการครอบแก้วอื่นๆ ไม่ได้
ในปัจจุบัน การครอบแก้วเป็นที่นิยม เป็นทางเลือกหนึ่งของการดูแลสุขภาพ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องเวลาและวิธีการ โดยต้องอิงตามอายุ สภาพร่างกาย โรค ระดับความหนักเบาของโรค ตำแหน่งที่ครอบ
การครอบแก้ว หรือครอบกระปุกถือเป็นการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน ซึ่งต้องกระทำโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน
แปลและเรียบเรียงจาก:
-史晓瑜, 刘堂义, 杨华元. 罐疗的历史发展与临床应用[J]. 中医学, 2016, 5(4): 149-161.
-中医古老治疗方法——拔罐. 中医药博物馆 医史部 张艺馨
--------------------
ติดต่อสอบถาม หรือ นัดหมายล่วงหน้า
•Line : @acuhouseclinic https://lin.ee/ZuohRAB
•Facebook/Instagram : acuhouse_clinic
•Tel. 084-284-5150
แอคคิว เฮาส์ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนเลขที่ 616/5 โครงการเดอะ พาร์ที บาย อารียา ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
ความคิดเห็น